พะเยา ชาวบ้านเลี้ยงจิ้งหรีดขายรายได้ดี ผลผลิตเร็วมีความต้องการของตลาดมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ส่งเสริมชาวบ้านปางถ้ำ หมู่ 9 ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยาและ บ้านเวียงลอ หมู่ 11 ต.ลอ อ.จุน จ.พะเยา ในการประกอบอาชีพ แนวทางการยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กและครอบครัวโดยการส่งเสริมให้ชาวบ้านเลี้ยงจิ้งหรีดขาย ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 45 วัน ก็จับจิ้งหรีดขายได้และราคาสูงขายกิโลกรัมละ200-250 บาททำให้มีรายได้เสริมจากการเลี้ยง เฉลี่ยเดือนละ 20,000-25,000 บาทซึ่งการเลี้ยงจิ้งหรีด เลี้ยงง่ายลงทุนน้อยมีพ่อค้าแม่ค้ามารับชื้อถึงที่แต่ละรอบจนแทบไม่พอขาย
โดยที่บ้านของ นางแดง ไชยวงค์ อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 4 หมู่ 9 ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา เป็นหนึ่งในผู้เลี้ยงจิ้งหนรีดในโครงการ พบว่าที่ผ่านมาการเลี้ยวจิ้งหรีดสร้างรรายได้ดีให้กับครอบครัวเลี้ยงง่าย ใช้เวลาเพียง 45 วันก็สามารถเก็บผลผลิตมาจำหน่ายได้ กิโลละ 200 – 250 บาท โดยที่ผ่านมาทำมาแล้ว 3 รุ่น สร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว ต่อไปจะได้มีการขยายพันธุ์ เพื่อสอนให้กับผู้ที่สนใจในบริเวณใกล้เคียงจะได้มีการรายได้เสริม
ด้าน นายณรงค์ ไข่ทา อายุ 62 ปี และ นางย้าย ศรีวิชัย อายุ 59 ปี บ้านเวียงลอ ต.ลอ อ.จุน จ.พะเยา เป็นอีกหนึ่งในผู้เลี้ยงจิ้งหรีด กล่าวว่า ได้มีการพัฒนาและต่อยอดโดยการสังเกตุ พฤติกรรม อายุไข และการวางไข่ของจิ้งหรีด โดยได้มีการพัฒนาในการแยกไขและเลี้ยงในพื้นที่เปิดโล่งภายในกรงที่เลี้ยง เพื่อให้ตัวโตเท่ากัน และสามารถต่อยอดให้กับเพื่อนบ้านที่สนใจ เพราะก่อนหน้านี้ได้ทำมาแล้ว 3-4 รุ่น ขายได้เร็ว กรงละ 4-5 กิโลกรัม 45 วันก็สามารถเก็บขายได้ ไม่ต้องไปขายที่ไหน มีคนมาซื้อถึงบ้านเพียงแต่โพสลงโซเชียลไม่ถึง ครึ่งวันก็ขายหมด อนาคต กำลังจะขยายพื้นที่เลี้ยงให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นขนาด 2×2 เพื่อให้ได้จำนวนผลผลิตที่มากขึ้น โดยได้ไปศึกษาเพิ่มเติมแล้วพบว่าจะสามารถขายได้กรงละ 20,000 – 25,000 บาทต่อกรง ต่อรอบการผลิต
ซึ่งการเลี้ยงจิ้งหรีด เลี้ยงง่ายลงทุนน้อย ไม่ต้องดูแลตลอดเวลา ศัตรูตามธรรมชาติมีน้อย
ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้าร่วมหลายโครงการในการพัฒนาอาชีพสร้างรายได้ ทั้งเลี้ยงกบ เลี้ยงปลา แต่ต้องมีการดูแลที่ละเอียด และใช้เวลานานกว่าจะเก็บผลผลิตได้ แต่การเลี้ยงจิ้งหรีด ไม่ต้องเฝ้าหรือดูแลมากนัก เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ไว อาหารที่กินมีหัวอาหารลงทุนเพียงกรงละ 100 บาท ต่อรอบการผลิต หลังจากนั้นใช้ผักไชยา หรือผักผงชูรส ที่มีตามพื้นที่อยู่แล้ว กับมะละกอ สุก ให้กิน แต่ไม่ได้ให้ในปริมาณมาก ทำให้ต้นทุนในการเลี้ยงต่ำ การขยายพันธุ์ก็ทำได้ง่าย เพียงแค่รอให้ไข่ แล้วเก็บไข่เอาไว้แยกจากพ่อแม่พันธุ์ เพื่อขยายต่อในรอบต่อไป สร้างรายได้เสริม และในอนาคตอาจจะกลายเป็นรายได้หลักก็ได้
