ไม่เป็นอย่างที่คิดคลิป รถยนต์เก๋งชนชายขาพิการข้ามถนนชาวต่างชาติไม่พอใจแชร์โลกโซเซียล
ไม่เป็นอย่างที่คิดคลิป รถยนต์เก๋งชนชายขาพิการข้ามถนนชาวต่างชาติไม่พอใจแชร์โลกโซเซียล
ค่ำวันที่ 8 มกราคม 2565 เวลา21.00น.ผู้สื่อข่าวได้ติดตาม กรณีสื่อโซเชียลลงข่าว ”ชาวเน็ตจวกยับเก๋งพุ่งชนลุงข้ามถนนหน้า รพ.จนหัวคะมำ จี้ออกมาขอโทษ” โดยมีภาพเหตุการณ์ขณะรถยนต์คันหนึ่งเลี้ยวรถเข้า รพ.พะเยา ได้เฉี่ยวชนคนเดินเท้าหน้า รพ.
พะเยา จพะเยา หลังเกิดเกตุการณ์ทาง พ.ต.อ.บวร ไชยคำผกก.สภ.เมืองพะเยา
ได้ทำการตรวจสอบรายละเอียดของเหตุการณ์ที่ปรากฏในภาพ CCTV ดังกล่าว และได้ติดตามตัวผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งคันเกิดเหตุ ชื่อนายไพฑูรย์ คงมั่น อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 49 หมู่ 9 ต.บ้านใหม่ อ.เมืองพะเยา พร้อมกับติดตามตัวคู่กรณี ชื่อนายนิวัติ วงศ์บุญมา อายุ 49 ปี บ้านเลข 481/3 ที่ 11 ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา และย้ายบ้านไปอยู่ บ้านพวงพยอม ต.หงส์หิน อ.จุนจ.พะเยา จากการติดตามและสอบสวนได้ความว่าตามวันเวลาเกิดเหตุ นายไพฑูรย์ฯ ได้ขับรถยนต์คันทะเบียน กท 172 พะเยา กำลังจะไปเยี่ยมบิดาซึ่งป่วยรักษาตัวอยู่ รพ.พะเยา ขณะเลี้ยวขวาเพื่อจะเข้าประตูทางเข้า รพ. ได้มองแต่ถนนด้านซ้ายที่มีรถสวนมา เมื่อถึงปากทางเข้า รพ. ได้หันมาด้านประตูทางเข้าโรงพยาบาลเป็นจังหวะที่ นายนิวัฒน์ฯ เดินผ่านหน้ารถพอดี จึงรีบเบรคหยุดรถกระทันหันทันที ด้านหน้ารถไปชนขาด้านหลังของนายนิวัฒน์ฯ เล็กน้อย หลังเกิดเหตุ ได้เปิดกระจกมาดู ยกมือไหว้ขอโทษ และเห็นว่านายนิวัฒน์ฯ ไม่ได้ว่าอะไร พร้อมพยักหน้า จึงขับรถต่อเข้าไปใน รพ.พะเยาต่อมา เวลาประมาณ 18.00 น. ของวันนี้(8ม.ค.2565)พ.ต.อ.บวร ไชยคำ ผกก.สภ.เมืองพะเยา ได้พานายไพฑูรย์ฯ เดินทางไปพบและกราบขอโทษ
นายนิวัฒน์ฯ ที่บ้านพัก พวงพยอม ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา พร้อมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจ กับนายนิวัฒน์ เรียบร้อยแล้ว นายนิวัฒน์ฯ เป็นที่พอใจ ไม่ติดใจดำเนินคดีกับนายไพฑูรย์ฯ แต่การกระทำของนายไพฑูรย์ฯ เป็นความผิดฐาน”ขับขี่รถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ” จึงทำการเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวน 400 บาท
นายไพฑูรย์ คงมั่น คนขับรถยนต์เก๋ง กล่าวว่าได้ขับรถยนต์เก๋งทะเบียน กท 172 พะเยา กำลังจะไปเยี่ยมบิดาซึ่งป่วยรักษาตัวอยู่ รพ.พะเยา ขณะเลี้ยวขวาเพื่อจะเข้าประตูทางเข้า รพ. ตนได้มองแต่ถนนด้านซ้ายที่มีรถสวนมา เมื่อถึงปากทางเข้า รพ. ตนได้หันมาด้านประตูทางเข้าโรงพยาบาลเป็นจังหวะที่ นายนิวัฒน์ฯ เดินผ่านหน้ารถพอดี จึงรีบเบรคหยุดรถกระทันหันทันที จนด้านหน้ารถไปชนขาด้านหลังของนายนิวัฒน์ฯ เล็กน้อย หลังเกิดเหตุ ได้เปิดกระจกมาดู ยกมือไหว้ขอโทษ และเห็นว่านายนิวัฒน์ฯ ก็ได้แสดงอาการตอบรับ พยักหน้า ไม่ได้ว่าอะไร จึงขับรถต่อเข้าไปใน รพ.พะเยา จนกระทั่งตอนเย็นวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อให้เดินทางมาพบที่สภ.เมืองพะเยา และได้พาไปพบคู่กรณีพร้อมได้ขอโทษ คู่กรณี และต้องขอบคุณคู่กรณีและพ.ต.อ.บวร ไชยคำ ผกก.สภ.เมืองพะเยา ที่ได้ช่วยเหลือและให้โอกาสได้ชี้แจงกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนเป็นที่เข้าใจ กันแล้ว
พ.ต.อ.บวร ไชยคำ ผกก.สภ.เมืองพะเยา กล่าวว่ากรณีสื่อโซเชียลลงข่าว ”ชาวเน็ตจวกยับเก๋งพุ่งชนลุงข้ามถนนหน้า รพ.จนหัวคะมำ จี้ออกมาขอโทษ” โดยมีภาพเหตุการณ์ขณะรถยนต์คันหนึ่งเลี้ยวรถเข้า รพ.พะเยา ได้เฉี่ยวชนคนเดินเท้าหน้า รพ.
พะเยา ภ.จว.พะเยา หลังเกิดเหตุการณ์ได้ทำการตรวจสอบรายละเอียดของเหตุการณ์ที่ปรากฏในภาพ CCTV ดังกล่าว และได้ติดตามตัวผู้ขับขี่รถคันเกิดเหตุ ทราบภายหลังว่าชื่อ นายไพฑูรย์ คงมั่น อายุ 50 ปี (ที่อยู่ บ้านเลขที่ 49 หมู่ 9 ต.บ้านใหม่ อ.เมืองพะเยา) พร้อมกับติดตามตัวคู่กรณี (ชื่อนายนิวัติ วงศ์บุญมา อายุ 49 ปี ที่อยู่ บ้านเลข 481/3 ที่ 11 ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา) จากการสอบสวนได้ความว่าตามวันเวลาเกิดเหตุ นายไพฑูรย์ฯ ได้ขับรถยนต์คันทะเบียน กท 172 พะเยา กำลังจะไปเยี่ยมบิดาซึ่งป่วยรักษาตัวอยู่ รพ.พะเยา ขณะเลี้ยวขวาเพื่อจะเข้าประตูทางเข้า รพ. ตนได้มองแต่ถนนด้านซ้ายที่มีรถสวนมา เมื่อถึงปากทางเข้า รพ. ตนได้หันมาด้านประตูทางเข้าโรงพยาบาลเป็นจังหวะที่ นายนิวัฒน์ฯ เดินผ่านหน้ารถพอดี จึงรีบเบรคหยุดรถกระทันหันทันที ด้านหน้ารถไปชนขาด้านหลังของนายนิวัฒน์ฯ เล็กน้อย หลังเกิดเหตุ ได้เปิดกระจกมาดู ยกมือไหว้ขอโทษ และเห็นว่านายนิวัฒน์ฯ ไม่ได้ว่าอะไร จึงขับรถต่อเข้าไปใน รพ.พะเยา
ต่อมา เวลาประมาณ 18.00 น. ของวันนี้(8 ม.ค.2565) ได้พานายไพฑูรย์ฯ เดินทางไปพบและกราบขอโทษ
นายนิวัฒน์ฯ ที่บ้านพัก ที่บ้านพวงพยอม ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา พร้อมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจกับนายนิวัฒน์ เรียบร้อยแล้ว นายนิวัฒน์ฯ เป็นที่พอใจ ไม่ติดใจดำเนินคดีกับนายไพฑูรย์ฯ แต่การกระทำของนายไพฑูรย์ฯ เป็นความผิดฐาน”ขับขี่รถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ” จึงทำการเแรียบปรับเป็นจำนวน 400 บาทและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษกันแต่อย่างใด แต่ก็ถือว่าเป็นการกระทำตามพรบ.จราจรทางบก