ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีชาวบ้านทั้งในและนอกพื้นที่ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมืองจังหวัดพะเยา พากันนำดอกไม้ธูปเทียน เข้าไปกราบไหว้ขอโชค กับรูปปั้น อนุสาวรีย์ ของเจ้าแม่จันทร์เทวี วีรกษัตริย์ที่เคยสร้างเมืองพะเยา ที่ตั้ง ประดิษฐานอยู่ในวัดป่าสักคำ บ้านหนองหวี หมู่ 8 ตำบลท่าวังทองอำเภอเมืองจังหวัดพะเยา ชาวบ้านต่างเชื่อว่า เมื่อมาขอพรและขอโชคลาภ จาก เจ้าแม่จันทร์เทวี มักจะสัมฤทธิ์ผล ทุกครั้ง และจะต้องนำ เอา เสื้อผ้าชุดไทย ตลับแป้งปะหน้าลิปสติก หวี กระจก น้ำและ เครื่อง ระดับ มาเซ่นไหว้ถวาย
จะสังเกตพบว่า อนุสาวรีย์ของเจ้าแม่จันทร์เทวี วีรกษัตริย์ที่เคยสร้างเมืองพะเยา เมื่อ 900 ปีที่ผ่านมาได้ ที่ตั้ง ประดิษฐานประทับนั่งบนแท่นในศาลา วัดป่าสักคำ บ้านหนองหวี หมู่ 8 ตำบลท่าวังทองอำเภอเมืองจังหวัดพะเยา การแต่งกาย ชุดไทย แบบล้านนา เมื่อพบว่า บริเวณรอบๆ ศาลา ได้มี เครื่องแต่งกายชุดไทย ตลอดจน เครื่องแต่งหน้า เครื่องประดับ ของเครื่องใช้สตรี ได้จัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ซึ่งในแต่ละวันจะมีผู้คนเข้ามา บูชา ขอพร และขอโชภลาภ เชื่อว่า ความศักดิ์สิทธิ์สามารถดลบันดาล กับผู้ที่เคารพนับถือ
พระครูไพศาลพนารักษ์ เจ้าอาวาส วัดป่าสักคำ ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา กล่าวว่า เป็นความเชื่อส่วนบุคคล พระแม่ จันทร์เทวีในพงศาวดาร โยนกได้กล่าวไว้ว่าพระธิดา ของเมืองปัวหรือเมืองน่าน พ่อขุนเจืองธรรมิกราชได้ไปคล้องช้างที่เมืองน่าน กษัตริย์เมืองน่าน จึงยกพระธิดา ให้ ชื่อว่านางจันทร์ และในพงศาวดารโยนกได้กล่าวไว้ว่า เจ้าแม่จันทร์เทวี มีประวัติความเป็นมายังไง ทางวัดจึงได้สร้างอนุสาวรีย์เจ้าแม่จันทร์เทวีขึ้น เพื่อเป็นที่ระลึกว่าอดีตเคยเป็น พระมเหสีและ เป็นวีรกษัตริย์ที่เคยสร้างเมืองพะเยาแห่งนี้ ให้มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้น ซึ่งพระแม่จันทร์เทวีได้สร้างเมืองพะเยาประมาณ 900 กว่าปี และอยู่ปกครองบ้านเมืองนี้ตลอดมา
จึงได้สร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้คนรุ่นหลัง และคนส่วนใหญ่ที่มาทำบุญที่วัด มากราบไหว้เจ้าแม่จันทร์เทวีเพื่อขอโชคลาภ และ หน้าที่การงาน เพื่อให้สมปรารถนาตามที่ต้องการเมื่อสำเร็จตามที่ต้องการก็จะมาทำการแก้บน จะนำแป้งเครื่องหอมชุดไทยและอื่นๆ ตามที่บนไว้มา ถวาย เพื่อเป็นการที่เจ้าแม่ให้กำลังใจและศรัทธา ซึ่งก็เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล แล้วแต่จะศรัทธาและเคารพนับถือ